พุทธชัยมงคลคาถาพาหุง (ถวายพรพระ)

พุทธชัยมงคลคาถาพาหุง (ถวายพรพระ)

พาหุงสะหัส สะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง ครีเมขะลัง อุทิตะโฆ ระสะเสนะมารัง
ทานาทิธัมมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ

มาราติเร กะมะภิยุชฌิตะสัพพะรัตติง โฆรัมปะนาฬะวะกะมักขะมะถัทธะยักขัง
ขันตีสุทันตะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ

นาฬาคิริง คะชะวะรัง อะติมัตตะภูตัง ทาวัคคิจักกะมะสะนีวะ สุทารุณันตัง
เมตตัมพุเสกะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ

อุกขิตตะขัคคะมะติหัตถะสุทารุณันตัง ธาวันติโยชะนะปะถังคุลิมาละวันตัง
อิทธีภิสังขะตะมะโน ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ

กัตตะวานะ กัฏฐะมุทะรัง อิวะ คัพภินียา จิญจายะ ทุฏฐะวะจะนัง ชะยะกายะมัชเฌ
สันเตนะ โสมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ

สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกาวาทะเกตุง วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง
ปัญญาปะทีปะชะลิโต ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ

นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิทธิง ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปะยันโต
อิทธูปะเทสะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ

ทุคคาหะทิฏฐิภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง พรัหมัง** วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง
ญาณาคะเทนะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ

เอตาปิ พุทธะชะยะมังคะละอัฉฐะคาถา โย วาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที
หิตวานะเนกะวิวิธานิ จุปัททะวานิ โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะ นะโร สะปัญโญ

* ถ้าสวดให้คนอื่น ให้เปลี่ยนจากคำว่า เม เป็น เต
** พรัหมัง อ่านว่า พรัมมัง

ถวายพรพระ (อิติปิ โสฯ)

ถวายพรพระ (อิติปิ โสฯ) Itipiso Prayers

อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโตโลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถาเทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ
(พุทธคุณ)

สวากขาโต ภะคะวาตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติ (อ่านว่าวิญญูฮีติ)
(ธรรมคุณ)

สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ยะทิทัง จัตตาริ
ปุริสะยุคานิ อัฏฐะปุริสะ ปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ *อาหุเนยโย  **ปาหุเนยโย ***ทักขิเณยโย อัญชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ
(สังฆคุณ)

คำแปลความหมาย

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้ไกลจากกิเลส เป็นผู้ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ (ความรู้และความประพฤติ) เป็นผู้เสด็จไปดีแล้ว (คือ ไปที่ใดยังประโยชน์ให้ที่นั้น) เป็นผู้รู้โลกอย่างแจ่มแจ้ง เป็นผู้สามารถฝึกบุรุษที่สมควรฝึกได้อย่างไม่มีใครยิ่งไปกว่า เป็นครูผู้สอนของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานด้วยธรรม เป็นผู้มีความจำเริญ จำแนกธรรมสั่งสอนสัตว์

พระธรรมเป็นสิ่งที่พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ดีแล้ว เป็นสิ่งที่ผู้ศึกษาและปฏิบัติพึงเห็นได้ด้วยตนเอง เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้ และให้ผลได้ไม่จำกัดกาล เป็นสิ่งที่ควรกล่าวกับผู้อื่นว่าท่านจงมาดูเถิด เป็นสิ่งที่ควรน้อมเข้ามาใส่ตัว เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน

สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าหมู่ใด ปฎิบัติดีแล้ว สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าหมู่ใด ปฏิบัติตรงแล้ว สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าหมู่ใด ปฏิบัติเพื่อรู้ธรรมเป็นเครื่องออกจากทุกข์แล้วสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าหมู่ใด ปฏิบัติสมควรแล้ว ได้แก่ บุคคลเหล่านี้คือ คู่แห่งบุรุษ ๔ คู่ นับเรียงตัวบุรุษได้ ๘ บุรุษ (คือ พระอริยบุคคล ๘) นั้นแหละสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นผู้ควรแก่ทักษิณา เป็นผู้ควรแก่การทำอัญชลี เป็นเนื้อนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า

* อาหุเนยโย อ่านว่า อาหุไนโย
** ปาหุเนยโย อ่านว่า ปาหุไนโย
*** อ่านว่า ทักขิไนโย

ไตรสรณคมน์ (Tisarana)

ไตรสรณคมน์ (Tisarana)

พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ

ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ

สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ตะติยังปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ

ตะติยังปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ

ตะติยังปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

คำแปลความหมาย

ข้าพเจ้าขอถือเอาพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งที่ระลึก
ข้าพเจ้าขอถือเอาพระธรรมเป็นที่พึ่งที่ระลึก
ข้าพเจ้าขอถือเอาพระสงฆ์เป็นที่พึ่งที่ระลึก

แม้ครั้งที่สอง ข้าพเจ้าขอถือเอาพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งที่ระลึก
แม้ครั้งที่สอง ข้าพเจ้าขอถือเอาพระธรรมเป็นที่พึ่งที่ระลึก
แม้ครั้งที่สอง ข้าพเจ้าขอถือเอาพระสงฆ์เป็นที่พึ่งที่ระลึก

แม้ครั้งที่สาม ข้าพเจ้าขอถือเอาพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งที่ระลึก
แม้ครั้งที่สาม ข้าพเจ้าขอถือเอาพระธรรมเป็นที่พึ่งที่ระลึก
แม้ครั้งที่สาม ข้าพเจ้าขอถือเอาพระสงฆ์เป็นที่พึ่งที่ระลึก

*อ้างอิงจาก หนังสือสวดมนต์ ทำกรรมฐาน ตามแบบหลวงพ่อจรัญ

ขอขมาพระรัตนตรัย

ขอขมาพระรัตนตรัย (Begging the Triple Gems for pardon)

วันทามิ พุทธัง, สัพพะ เมโทสัง, ขะมะถะเม ภัณเต,

วันทามิ ธัมมัง, สัพพะ เมโทสัง, ขะมะถะเม ภัณเต, วันทามิ สังฆัง,

สัพพะ เมโทสัง, ขะมะถะเม ภัณเต

คำแปล

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าขอกราบไหว้พระพุทธเจ้า เพื่อขอขมาโทษทั้งปวง ขอพระองค์จงประทานอภัยโทษแก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด
ข้าแต่พระธรรมอันเจริญ ข้าพเจ้าขอกราบไหว้พระธรรมเพื่อขอขมาโทษทั้งปวง ขอพระธรรมจงให้อภัยโทษแก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด
ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าขอกราบไหว้พระสงฆ์เพื่อขอขมาโทษทั้งปวง ขอพระสงฆ์จงให้อภัยโทษแก่้ข้าพเจ้าด้วยเถิด

บทนมัสการพระพุทธเจ้า

บทนมัสการพระพุทธเจ้า (Homage to the Buddha)

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ (๓ จบ)

คำแปล
(ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์นั้น ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง)

บูชาพระรัตนตรัย

บูชาพระรัตนตรัย (Worship to Triple Gem)

อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง อะภิปูชะยามิ

อิมินา สักกาเรนะ ธัมมัง อะภิปูชะยามิ

อิมินา สักกาเรนะ สังฆัง อะภิปูชะยามิ

บทกราบพระรัตนตรัย

บทกราบพระรัตนตรัย (krabphra ratntray)

อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ (กราบ)

สะวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ธัมมัง นะมัสสามิ (กราบ)

สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ (กราบ)

คำแนะนำการจุดธูปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์

คำแนะนำการจุดธูปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์

ธูป ใช้สำหรับการจุดสักการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือเทพเจ้ามาตั้งแต่ยุคอียิปต์โบราณ เป็นเครื่องหอมชนิดหนึ่งที่ทำมาจากเนื้อไม้หอม (Aromatic) ในหลายๆชนิด เช่น กำยาน (Gum Benzoin) กันเกราหรือต้นบง (Tembusu) ไม้กฤษณา (Agar wood) จันทน์เทศ (Nutmeg) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญนำมาบดเนื้อไม้ให้เป็นผงละเอียดและนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการทำธูปหอมต่อไป เวลาจุดธูปจะมีควัญและกลิ่นที่ลอยมาจากธูปหอมสดชื่น

จุดธูปไหว้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ กี่ดอก
         จุดธูปไหว้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ กี่ดอก !! ถึงจะถูกวิธี

เชื่อว่ามีหลายๆคนไม่น้อยที่เวลาจุดธูปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือสิ่งที่เราเคารพบูชานั้นอาจจะมีคำถาม? หรือ งง? กันบ้าง!! ว่าเราควรจะจุดธูปกี่ดอกดีถึงจะถูกต้อง วันนี้ “พีดีธูปหอมไทย” มีเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆมาฝากเพื่อนๆโดยผ่านการรวบรวมคัดสรรบทความการใช้ธูปจากหลายๆที่มาให้เพื่อเป็นข้อมูลกันค่ะตามมาอ่านกันเลย

การจุดธูปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์

  • ๑ ดอก   ไหว้เจ้าที่เจ้าทาง ภูตผี ศพหรือวิญญาณ ที่ยังไม่ได้ขึ้นเป็นชั้นเทพ
  • ๒ ดอก   ไหวเรื่องที่เกี่ยวข้องกับวิญญาณและการจุดธูปบนอาหาร
  • ๓ ดอก   ไหว้บูชาพระรัตนตรัย บูชา พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
  • ๔ ดอก   ไหว้เกี่ยวกับธาตุสี่ ใช้ในการสวดเสริมดวงชะตาราศี
  • ๕ ดอก   ไหว้บูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พ่อแม่และครูบาอาจารย์
  • ๖ ดอก   ไหว้ดวงชะตาตามกำลังไฟของพระอาทิตย์ ของคนที่เกิดวันอาทิตย์
  • ๗ ดอก   จุดบูชาจิตวิญญาณตามศาลเจ้าพ่อเจ้าแม่ และครูบาอาจารย์ที่เสียชีวิตแล้ว
  • ๘ ดอก   การเสริมดวงชะตา ตามกำลังพระอังคาร และตามจำนวนอัฎฐเคราะห์
  • ๙ ดอก   จุดธูปบูชาผู้มีพระคุณ พระภูมิเจ้าที่ เทพ เจ้าป่า เจ้าเขา รุกขเทวดา ศาลพระภูมิ ศาลเทพ พระเกตุ กำลัง ๙
  • ๑๐ ดอก   เกี่ยวข้องกับธาตุไฟ ตามกำลังของพระเสาร์ มีกำลัง ๑๐ เพื่อใช้ในการสวดเสริมดวงชะตา
  • ๑๑ ดอก   จุดบูชาเทวดาชั้นสูง
  • ๑๒ ดอก   จุดบูชาบูชาตามกำลังพระราหู ใช้ในการสวดเสริมดวงชะตา คนที่เกิดวันพุธกลางคืน
  • ๑๔ ดอก   จุดธูปบูชารูปปั้นพระสงฆ์ (เป็นการบูชาคุณพระสงฆ์)
  • ๑๕ ดอก   ใช้สวดบูชาดวงชะตา เกี่ยวข้องกับธาตุ ตามกำลังของพระจันทร์
  • ๑๖ ดอก   จุดธูปบูชาเทพชั้นสูง บูชาเทพชั้นครู หรือ พิธีกลางแจ้ง ที่มีการอัญเชิญเทวดา ที่สำคัญหมายถึงสวรรค์ ๑๖ ชั้น
  • ๑๗ ดอก   เป็นการเสริมดวงชะตา บูชาตามกำลังพระพุธ มีกำลัง ๑๗ สวดเสริมดวงชะตาของคนเกิดวันพุธ(กลางวัน)
  • ๑๘ ดอก   ไม่นิยมจุดบูชา
  • ๑๙ ดอก   จุดบูชาเทวดาทั้ง ๑๐ ทิศ บูชาตามกำลังพระพฤหัสบดี มีกำลัง ๑๙
  • ๒๑ ดอก   บูชาพระคุณของพ่อ การบูชาแม่พระธรณี บูชาพระศุกร์ มีกำลัง ๒๑
  • ๓๒ ดอก   จุดสวดชุมนุมเทวดาทั้ง ๔ ทิศ การไหว้ ๑๖ ชั้นฟ้า ๑๕ ชั้นดินและ ๑ โลกมนุษย์
  • ๓๙ ดอก   จุดบูชาพระแม่โพสพ
  • ๕๖ ดอก   เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับบูชาคุณพระพุทธเจ้า
  • ๑๐๘ ดอก   บูชาสิ่งสูงสุดทั่วทั้งโลกทุกชั้นฟ้า

หมายเหตุ. สังเกตุกันไหม?ว่า ทำไม? “การจุดธูป ๑๓ ดอก” ตั้งแต่โบราณมีความเชื่อว่าเพราะเลขไม่เป็นมงคลจึงไม่ได้รับความนิยม

จากบทความที่เราได้รวบรวมมาข้างต้นนั้น อาจจะทำให้เพื่อนๆหลายคนหันมาจุดธูปอย่างถูกวิธีกันบ้านนะค่ะ ส่วนใครจะจุดธูปกันกี่ดอกไหว้และสักการสิ่งที่เราเคารพบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ก็ดูแล้วนำไปปรับใช้กันได้ตามสบายเลยค๊า… ^_^

ขอบคุณแหล่งที่มาข้อมูลเบื้องต้น Cr.https://th.wikipedia.org